ดูแลคิ้วหลังสักอย่างไรให้สวยยาวนาน: เคล็ดลับการดูแลคิ้ว รักษาสีให้ติดทน ป้องกันการติดเชื้อหลังสักคิ้ว

การสักคิ้วเป็นเทคนิคเสริมความงามกึ่งถาวร มีการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการวาดลายเส้น สักเสริมความงามลงบนชั้นผิวของร่างกาย ทำให้การใช้บริการสักคิ้วจะมีบาดแผลหลังใช้บริการไม่มากก็น้อย

    จำต้องดูแลรักษาและใช้ระยะเวลาในการสมานแผลสักระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นรูปแบบบริการสักคิ้วเชิงการแพทย์ที่ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย มาพร้อมกับขั้นตอนการสักคิ้วที่มีความสะอาด ปลอดภัยตามมาตรฐานที่หน่วยงานกำหนด 

    แต่หากผู้เข้ารับบริการสักคิ้วไม่มีการดูแลคิ้วหลังสักอย่างถูกต้อง ก็มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แผลสมานช้า หรือทำให้สีไม่ติดตามที่หวังไว้ได้เหมือนกัน เพื่อไม่ให้ทุกคนผิดหวังจากการเข้าใช้บริการที่ จีเมซ่า Gmeza มีเคล็ดลับการดูแลคิ้วหลังสักที่ควรทำตาม ดังนี้

  1. ล้างหน้าทำความสะอาดด้วยความเบามือ

แม้ว่าหลายคนจะทราบแล้วว่าหลังสักคิ้วเทคนิคใหม่ๆในปัจจุบัน สามารถโดนน้ำได้โดยไม่ต้องรอ 5 ถึง 7 วัน การล้างหน้าแผลสามารถโดนสบู่ โฟม หรือยาสระผมหลังสักคิ้วได้ปกติ แต่ก็ไม่ควรฟอกหรือใช้นิ้ววนบริเวณรอยสักโดยตรง ช่วงที่ทำความสะอาดบริเวณคิ้วก็ให้ทำอย่างเบามือ เสร็จแล้วให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดเบา ๆ จนแห้ง

  1. ทาเจลบำรุงหลังเข้ารับการสักคิ้ว

หลังสักคิ้วในช่วงแรก หลายคนผิวอาจมีอาการแดงและผิวหนังแห้งตึงอยู่บ้าง อาการแห้งตึงจากแผลที่รั้งตึงนี้ อาจมีอาการคันแผลเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะในวันที่แผลเริ่มตกสะเก็ด ผิวบริเวณที่สักคิ้วจึงควรมีความชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคืองขณะรอให้ผิวตกสะเก็ด 

  1. ห้ามแกะ เกา หรือดึงสะเก็ดแผลเด็ดขาด

ก่อนที่รอยสักคิ้วจะเข้าที่เข้าทาง ต้องรอให้แผลตกสะเก็ดและหลุดลอกออกเสียก่อน ถือเป็นช่วงที่ใครหลายคนอาจรู้สึกรำคาญจนอยากเกา แกะหรือดึงออกทิ้ง ซึ่งทุกคนห้ามทำเช่นนั้นเด็ดขาด เพราะการแกะ เกา หรือดึงสะเก็ดแผลออกเองจะทำให้สีสักคิ้วไม่สม่ำเสมอกัน เส้นคิ้วแหว่งเบี้ยว และแผลเกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาได้

  1. อย่าพึ่งเขียนคิ้วหรือแต่งหน้าบริเวณสักคิ้ว

หลังสักคิ้วควรงดการเขียนคิ้วอย่างน้อย 7 วัน หรือหลังจากสะเก็ดแผลหลุดลอกออกเองหมดแล้ว เพื่อให้หมึกสักคิ้วทำงานได้เต็มที่และไม่เป็นการทำร้ายผิวให้หนักขึ้น อีกทั้งการเขียนคิ้วหรือแต่งหน้าบริเวณรอยสักคิ้วอาจทำให้แผลที่ยังไม่แห้งสนิทติดเชื้อได้ง่าย

  1. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ อาหารรสจัดจ้าน

การสักคิ้วจะทำให้มีแผลเกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง เพื่อให้ทรงคิ้วเข้ารูปเข้ารอย รอยแผลสมานเร็วขึ้น ผู้เข้ารับการสักคิ้วจึงไม่ควร ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หลังสักอย่างน้อย 24 ชั่วโมง รวมถึงการรับประทานอาหารหมักดอง ของแสลง และรวมถึงอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน เพราะอาหารและเครื่องดื่มกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้รอยแผลสมานช้าเท่านั้น แต่ยังอาหารรสชาติจัดจ้านยังกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อและขับน้ำหมึกสักออกมาด้วย อาจทำให้รอยสักจางลงหรือสีหมึกไม่ติดเท่าที่ควรได้

  1. งดออกกำลังกายชั่วคราว

หลังสักคิ้วควรงดกิจกรรมทุกรูปแบบที่ทำให้เหงื่อออกเยอะ อย่างน้อย 1 วัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือแม้กระทั่งการอบซาวน่าหรืออยู่ในพื้นที่กลางแจ้งที่มีอากาศร้อนสูง เนื่องจากเหงื่อที่ขับออกมาจากร่างกายอาจไหลไปบริเวณคิ้วที่เพิ่งสักมา อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง อักเสบและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ อีกทั้งกิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อออกมา แต่ยังกระตุ้นการขับน้ำหมักสักออกมาเหมือนกับการรับประทานอาหารรสจัดด้วย

       ไม่ว่าคุณจะเข้าใช้บริการสักคิ้วด้วยเทคนิคใดก็ตาม ควรพึงระลึกไว้เสมอว่าการดูแลคิ้วหลังสักเป็นขั้นตอนที่ควรปฏิบัติเสมอ สำหรับคนที่เลือกสักสีคิ้วอ่อน ๆ ในช่วงแรกสีคิ้วอาจจะเข้มจัด ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะจะเป็นแค่ช่วง 7-10 วันเท่านั้น หรือใครที่สักคิ้วที่สีเข้ม เมื่อสักไปแล้วสีหมึกจางลงก็ถือเป็นปกติเช่นกัน เพราะแม้ว่าจะดูแลหลังสักคิ้วเป็นอย่างดีแล้ว แต่สภาพผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน อาจทำให้ระดับความติดของสี เข้ม อ่อนไม่เท่ากันนะคะ

    สุดท้ายนี้ใครที่ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในด้านการสักคิ้วมืออาชีพ ทางจีเมซ่า Gmeza  ยินดีให้บริการนะคะ เราคือสถาบันสอนสักคิ้วเชิงการแพทย์ชั้นนำแห่งประเทศไทย เจ้าของรางวัลมากมายทั้งในระดับประเทศและระดับสากล พร้อมให้บริการสักคิ้วยอดฮิตทุกรูปแบบ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง LINE: @gmeza หรือโทร. 096-247-8893